เชื่อว่าใครๆ ก็อยากมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง เพราะบ้านเป็นเหมือนของขวัญอันมีค่าชิ้นใหญ่ และยังเป็นตัววัดถึงความมั่นคงในชีวิต แต่กว่าจะได้บ้านสักหลัง กลับมีคำถามมากมายจนต้องท้อใจ เช่น จะเริ่มจากตรงไหน? จะเลือกใครเป็นผู้รับเหมา? ต้องเตรียมงบเท่าไหร่? วันนี้เราลองมาดู 5 ขั้นตอนง่ายๆ สู่การมีบ้านในฝัน รวมถึงแนวทางในการหาผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้าน มาเป็นเพื่อนคู่คิดสำหรับคอยให้คำปรึกษาและช่วยสร้างความมั่นใจทั้งก่อน ระหว่างและหลังการสร้างบ้าน ที่น่าจะเป็นคำตอบให้การสร้างบ้านกลายเป็นเรื่องง่ายไร้กังวลแบบ NO WORRY
1. ค้นหาสไตล์บ้านแบบไหนที่ใช่ตัวคุณ
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หาข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการสร้างบ้าน เริ่มจากการ เลือกสไตล์บ้าน ว่าอยากได้บ้านรูปทรงและดีไซน์แบบไหน ซึ่งสามารถหาไอเดียได้จากหลายที่ ทั้งนิตยสารเกี่ยวกับบ้าน หรือตามเว็บไซต์ผ่านการ Search จากคีย์เวิร์ดของสไตล์บ้าน เช่น คำว่า Contemporary House (คอนเทมโพรารี่ เฮ้าส์) หรือ Modern House (โมเดิร์น เฮ้าส์) แล้วยังไม่ได้แบบที่ถูกใจ จะลองใช้คีย์เวิร์ดอื่นๆ ที่แสดงถึงความเป็นตัวของตัวเองมาผสมดูก็ได้ อย่าง สีที่ชอบ เป็น Contemporary House White หรือคีย์เวิร์ดประเทศในฝัน เช่น Modern House Japanese ซึ่งก็จะเป็นบ้านสไตล์มินิมอล เรียบง่ายแต่ดูเท่ แม้กระทั่ง อารมณ์ความรู้สึก ก็สามารถนำมาใช้เป็นคำค้นหาได้ เช่น Loft Style Warm เท่านี้ก็จะได้ไอเดียของบ้านแบบที่เน้นความดิบของปูนเปลือย แต่ยังคงความรู้สึกที่อบอุ่นอยู่
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ก็คือ ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว ซึ่งย่อมมีความแตกต่างกัน ฉะนั้น อย่าลืมให้แต่ละคนทำการบ้านว่า ตนเองต้องการอะไรสำหรับบ้านใหม่ อย่างคุณลูกอาจต้องการห้องไว้เล่นเกม คุณแม่อยากได้ห้องครัวกว้างๆ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่วนคุณพ่อขอแค่มุมนั่งทำงานเงียบๆ เป็นต้น
2. “ร่าง”จากไอเดียสู่แปลนบ้าน
หลังจากได้ไอเดียคร่าวๆ แล้ว ก็จะต้องหาสถาปนิกหรือบริษัทรับสร้างบ้าน มาออกแบบและเขียนแบบแปลนบ้าน รวมถึงสเปกรายการประกอบแบบก่อสร้างและรายการวัสดุ โดยเจ้าของบ้านจะต้องแจ้งความต้องการและสไตล์แบบบ้านที่อยากได้ และควรแจ้งงบประมาณคร่าวๆ ให้ผู้ออกแบบทราบ เพื่อวางขอบเขตของงานดีไซน์ให้อยู่ภายใต้งบที่กำหนด ไม่บานปลายในภายหลัง
ในช่วงนี้เจ้าของบ้านสามารถสำรวจราคาสินค้าต่างๆ ตามร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อใช้เปรียบเทียบราคา ซึ่งอาจสอบถามเพิ่มเติมจากพนักงานผู้เชี่ยวชาญที่หน้าร้านถึงคุณสมบัติของวัสดุที่สนใจอย่างที่ SCG HOME SOLUTION จะมีผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจีคอยให้คำปรึกษาฟรีเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด จากนั้นจะเป็นขั้นตอนในการประมาณการค่าใช้จ่ายในลำดับต่อไป
3. เรื่องเงินคำนวณให้ดี ไม่ปวดหัวอย่างที่คิด
“งบบานปลาย” ถือเป็นปัญหาสุดคลาสสิกของคนสร้างบ้าน แต่ปัญหานี้สามารถจัดการให้ดูซอฟต์ลงแบบ NO WORRY ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
• กำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอยและแบบโครงสร้างบ้านให้ชัดเจนก่อนลงมือสร้าง เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงภายหลัง เพราะจะทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล
• ทำรายการสิ่งของที่อยากได้สำหรับบ้านในฝัน แล้วแยกว่าชิ้นไหนสำคัญ ชิ้นไหนยังไม่จำเป็น เผื่อจะปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบที่ถูกกว่าหรือตัดทิ้งได้ในภายหลัง
• ในขั้นตอนการหาผู้รับเหมา ควรหาบริษัทไว้เป็นตัวเลือกอย่างน้อย 2 ที่ เพื่อใช้เปรียบเทียบราคา คุณภาพ และผลงานที่ผ่านมาได้
• เมื่อบริษัทรับเหมาก่อสร้างประเมินราคามาให้ ควรหาผู้เชี่ยวชาญคนกลาง มาช่วยดูว่าราคานั้นสมเหตุสมผล และวัสดุที่ใช้มีคุณภาพที่ดีเพียงพอหรือไม่
• หากไม่ถูกใจวัสดุชิ้นใด สามารถพาสถาปนิกไปเลือกของด้วยกัน เพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงใจและมีคุณภาพ เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกซื้อวัสดุจากศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา รวมทั้งช่วยคำนวณปริมาณการใช้วัสดุ เพื่อลดปัญหาของขาด ของเกิน
4. “สร้าง” จากกระดาษสู่บ้านจริง
เมื่อถึงเวลาสร้างบ้านจริง อันดับแรกเจ้าของบ้านจะต้องเตรียมพื้นที่ให้พร้อม เช่น ต้องถมพื้นที่ก่อนลงเสาเข็ม หรือย้ายสาธารณูปโภคที่กีดขวางการก่อสร้างให้เสร็จก่อน จากนั้นจึงเริ่มงานก่อสร้าง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น งานฐานรากและโครงสร้าง ได้แก่ การตอกและลงเสาเข็ม งานฐานราก และโครงสร้างชั้นที่ 1 (และชั้นที่ 2 หากมี) ต่อด้วยงานบันได งานหลังคา งานผนัง และงานตั้งวงกบ จากนั้นคืองาน ระบบภายในบ้าน งานวางระบบไฟฟ้า งานประปาและสุขาภิบาล ซึ่งรวมถึงงานฉาบ งานฝ้าเพดาน ตามลำดับ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงเป็น งานเก็บรายละเอียด อย่างงานพื้นผิวและติดตั้งวงกบหน้าต่าง ประตู ต่อด้วยงานสีและติดตั้งอุปกรณ์ รวมถึงสุขภัณฑ์ ก่อนจะปิดท้ายที่ งานตกแต่งสถาปัตยกรรม รวมถึงงานปรับพื้นที่ภูมิทัศน์รอบบ้าน และตรวจรับงาน
ตลอดเวลาที่มีการก่อสร้าง เจ้าของบ้านควรเข้าไปตรวจงานอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้เป็นภาระของผู้รับเหมาทั้งหมด หรืออาจมีการนัดให้วิศวกรหรือสถาปนิกเข้าไปช่วยตรวจงานก่อนส่งมอบด้วย แต่ถ้าเลือกใช้บริการกับ SCG HOME SOLUTION ในขั้นตอนนี้ เจ้าของบ้านสบายใจไร้กังวล ด้วยบริการติดตั้งจากทีมช่างมืออาชีพที่มากประสบการณ์ งานติดตั้งได้มาตรฐาน พร้อมมีการตรวจสอบคุณภาพและรับประกันงานติดตั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาจุกจิกที่ต้องแก้ไขหรือรื้อทำใหม่ตามมาในภายหลัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้งบประมาณบานปลายไปมากมาย
5. “เสร็จ”ตกแต่งและตรวจสอบให้เป๊ะ
ในขั้นตอนสุดท้าย คือ การตกแต่งภายใน จะว่าจ้างบริษัท นักออกแบบอิสระ หรือจะตกแต่งเองก็ได้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็จะถึงขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วนมากๆ คือการตรวจรับบ้าน ซึ่งต้องจำให้ขึ้นใจเลยว่า “บ้านไม่พร้อม ห้ามลงชื่อรับบ้านเด็ดขาด” ต่อให้ตื๊อขนาดไหนก็ต้องใจแข็ง เพราะเมื่อลงนามเอกสารรับมอบบ้านแล้ว หากพบปัญหาใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทรับสร้างบ้านอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
credit: ไทยรัฐออนไลน์